{ SF iKON } ::ย้อนเวลา double b ( bobby x bi ) - { SF iKON } ::ย้อนเวลา double b ( bobby x bi ) นิยาย { SF iKON } ::ย้อนเวลา double b ( bobby x bi ) : Dek-D.com - Writer

    { SF iKON } ::ย้อนเวลา double b ( bobby x bi )

    คิดถึงเรื่องที่เคยผ่านมาบ้างไหม ?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,054

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.05K

    ความคิดเห็น


    12

    คนติดตาม


    19
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 พ.ย. 57 / 19:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เรื่องที่ 3 นะจ๊ะ นะจ๊ะ นะ 
    ติดต่อกันผ่าน ทวิตเตอร์ #ฟิคย้อนเวลาดบบ
    ฟิคนี้ประกอบด้วยเพลง ย้อนเวลา ของscrubb นะ :)

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title : ย้อนเวลา

      Pairing : double b

      Note :  เจอคำผิดบอกล่วยน่ะ ._.  #ฟิคย้อนเวลาดบบ

       

      อยากจะย้อนเวลา กลับไปช้าๆ

      ย้อนเวลา กลับไปอย่างเดิม

      ให้เป็นเหมือนทุกวันที่สดใส

      เราทั้งสอง

      จะลองเลือกทางก้าวไป

      ไม่สนใจ . . . อะไรทั้งนั้น

       

      .

      .

      .

       

      จริงๆแล้ว เรื่องของเราไม่มีอะไรติดค้าง

      ถ้าพูดแบบทั่วๆไป ก็คงจะเรียกว่า. . . จากกันด้วยดีก็ได้ล่ะมั๊ง?

      เราทั้งคู่เข้ากันได้ดีมาก จนไม่มีใครคิดว่าเราจะเลิกกัน  เป็นเหมือนคู่รักในฝัน เพื่อนของผมอิจฉาที่เขารักผมมากกว่าใคร เพื่อนของเขาก็อิจฉาไม่น้อยที่ผมดูแลเขาเป็นอย่างดี แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว จะมีซักกี่คู่กัน ที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่ อย่างน้อยเรื่องแบบนั้นก็ไม่ได้เกิดกับผม

      .

      .

      .

      สุดท้ายแล้วพวกเราก็เลิกกันทั้งที่ยังรัก

      มือของพวกเราที่เคยจับกันแน่น ในวันนี้เราต่างฝ่ายต่างค่อยๆคลายมันออก

      ทั้งๆที่ไม่มีใครมาพราก ในที่สุดทั้งเขาและผมก็เป็นอิสระต่อกันเสียที

      ผมรู้ว่าทั้งเขาและผม เรารู้สึกเหมือนกันว่าเรื่องของเรา

      มันมาถึงจุดที่เหนื่อยเกินจะรับไหว

      ผมคิดว่าเราอดทนกันมามากพอ มากจนรู้สึกอึดอัด

      เขาก็คงจะรู้สึกเหมือนกันว่าไม่ควรจะดันทุรังต่อไป. . . กับเรื่องของเรา

      .

      .

      .

       

      อยากจะถามอะไร

      ไม่เคยสงสัย

      ถามอะไร

      ไม่เคยระแวง

      ต่างก็รู้ว่าใครคิดอย่างไร

      เราทั้งสอง จะมีแต่ความ เชื่อใจ

      ไม่สนใคร อะไรทั้งนั้น

       

      .

      .

      .

       

      เพราะผมเคารพในตัวเขา พอๆกับที่เขาเคารพในตัวผม

      เราไม่เคยทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กน้อย

      เขารู้ว่าผมชอบงอน แต่ก็ดีที่เขาเป็นคนชอบง้อ

      เขารู้ว่าผมชอบคิดมาก เขาก็คอยช่วยแบ่งเบาความเครียด

      เขารู้ว่าผมขี้น้อยใจ ก็เป็นเขาอีกเหมือนกันที่คอยเอาใจใส่

      พวกเรายอมรับและปรับตัวเข้ากันได้อย่างประหลาด

      เรื่องอะไรที่เล็กน้อย เราก็ให้อภัยไม่เคยติดใจเอาความ

      ผมไม่เถียงงี่เง่า เขาก็ไม่เคยขุดเอาเรื่องเก่าๆมาชวนทะเลาะ

      ความรักของพวกเรา เหมือนทางราบเรียบ ที่เดินไปด้วยกันเรื่อยๆ

      ไม่ลำบากจนต้องสะดุดล้ม ไม่มีทางขึ้นเนินลงเนินให้รู้สึกหวือหวา

       

      เรื่องของเราก็เหมือนกับน้ำเปล่า

      ทั้งจืดชืดและน่าเบื่อหน่าย

      แต่เราก็ยังดื่มทุกวันทั้งๆที่ไร้รส

      ปฏิบัติต่อกันเหมือนเป็นหน้าที่

      ผมมีเรียนตอนเช้าเขาก็จะ ไปส่ง

      ตกตอนเย็นเขาไปเตะบอลกับเพื่อน ผมก็กลับมารอที่ห้อง

      แล้วคอยโทรตามเป็นบางครั้ง ถ้าดึกเกินไป

      ทุกอย่างที่ทำ ไม่ได้แปลว่าชอบ หรือรัก

      แต่มันเป็นความเคยชิน      

       

      ที่ผมรู้ดี. . . ว่าเขาก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน

      เพียงแต่เรายังไม่ยอมรับ ว่าเบื่อที่จะดื่มแต่น้ำเปล่าเต็มที

       

       

       

       ผมรู้ว่าผมอยู่คนเดียวได้  แม้ไม่มีเขา

      ผมย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน เพราะแม่ต้องการคนมาช่วยดูแลน้องสาว

      ช่วงที่พ่อไปทำงานต่างประเทศ  เขาโทรหาผมบ้างเป็นบางวัน

      พูดคุยไถ่ถาม สารทุกข์สุกดิบ กันเท่านั้น

      ไม่มีคำว่า . . . คิดถึง หรือ รัก

      ออกจากปากของผม หรือ เขา เพราะเราต่างคนต่างรู้ดี

      .

      .

      .

       

      นี่ จีวอน . . . ผมถามเขาขณะที่ซ้อนท้ายจักรยานเขาที่กำลังปั่นไปส่งผมที่ตึกคณะ

      หืม ว่า?

      นาย. . . อยากลองคบคนอื่นบ้างไหม?

      หมายความว่าไง. . .

      หมายความว่า เราเลิกกันจะดีไหม

      ไม่รู้สิ. . .เสียงของเขาเรียบเฉย ไม่ยินดียินร้าย ไม่ใช่ทั้งคำตอบรับและปฏิเสธ เป็นครั้งแรกที่ผมไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง พอๆกับที่ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไง

      . . . ผมนั่งซ้อนท้ายเขาเงียบๆ  จนถึงที่หมาย

      ฮันบินถึงแล้ว. . . แล้วตอนเย็น?

      ตอนเย็นไม่ต้องมารับหรอก เดี๋ยวกลับบ้านกับแม่

      อืม. .

      จีวอน . . .

      หืม ?

      ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ ก็ไม่ต้องโทรมาแล้วก็ได้นะ . .

      อืม. . .

      ฉันไปนะ พูดจบผมก็หันหลังให้เขา เดินไปในทิศที่จะเป็นตึกเรียน โดยไม่รอฟังคำลา ที่น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ของเขา

       

      .

      .

      .

      2 อาทิตย์แล้ว ที่เขาไม่โทรมา

      ผมก็พอจะเดาได้ว่ามันก็น่าจะเป็นไปในแบบนี้

      เพราะตัวผมเอง ก็ไม่ได้คิดถึงเขาบ่อย ไม่ได้รอคอยโทรศัพท์จากเขา

      อาจจะมีนึกถึงบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่ทรมาน

       

      .

      .

      .

      ผมเจอเขาบ้าง ตอนที่เดินผ่านสนามบอล

      หรือตอนที่เดินสวนกันในโรงอาหาร เขายิ้มทักน้อยๆ

      เป็นบางครั้งตอนที่เราสบตากัน

      ผมก็ยิ้มตอบกลับไป

       

      เพื่อนผมถามถึงเขา เพราะเห็นผมอยู่คนเดียวบ่อยขึ้น

      ผมก็ตอบเพื่อนไป. .  . ว่าเราเลิกกันแล้ว

      ผมไม่ได้เศร้าหรอกนะ แต่แค่รู้สึกว่าชีวิตมันขาดอะไรไป

      แต่อีกไม่นานหรอก ผมก็จะชินกับมัน

      .

      .

      .

      .

      ฉันแค่ต้องถามหน่อย

      ถามว่าเธอยังรู้สึก

      ว่ารักของเรายังเหมือนเก่า

      อีกไหม ในตอนนี้

      .

      .

      .

       

      ผมเจอเขาน้อยลง หลังจากจบจากมหาวิทยาลัย

       นับได้ก็คงจะ 3-4 ครั้งเองมั๊ง

      ครั้งแรก ก็ตอนรับปริญญา ที่เราบังเอิญ ยืนถ่ายรูปใกล้ๆกัน รูปบางส่วนของผมเลยติดเขามาด้วย

      ครั้งต่อมา ก็เมื่อ 5 เดือนก่อน ผมเจอเขาบนรถไฟฟ้านั่งทางด้านหลังของผมที่ยืนอยู่ ผมมองเห็นเขาจากเงาสะท้อนของกระจก  ที่นั่งข้างเขามีผู้หญิงตัวเล็กผมยาวดูน่ารักนั่งอยู่ และที่สำคัญ เขาก็ดูมีความสุขดี

      ครั้งที่สาม เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน ผมก็เจอเขากับผู้หญิงคนเดิม กำลังเลือกเสื้อผ้ากันที่ห้าง มองเผินๆแล้วคู่ของเขาในตอนนี้ก็น่ารัก เขาดูโตเป็นผู้ใหญ่ และดูสดใสตอนที่คุยกับผู้หญิงคนนั้น จนผมแอบคิด คิดถึงชีวิตตอนที่มีเขา. . .

      ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผมน่าจะเจอเขาอีกครั้งคืนวันเสาร์ที่จะถึงนี้

      ที่งานแต่งงาน. . .

       

      .

      .

      .

       

      แล้ววันเสาร์ก็มาถึง ผมยืนงกๆเงิ่นๆ อยู่ในงาน

      เจอเพื่อนสมัยหลายคนเข้ามาทัก นี่มันก็เหมือนวันรวมรุ่นดีๆ นี่เอง

      อ่าว ว่าไงฮันบิน เห็นเจ้าบ่าววันนี้ยัง? หล่อจนแทบจำไม่ได้เลยล่ะ

      ยังเลยครับพี่ฮงซอก พี่มานานแล้วหรอ

      ก็มาได้ซักพักแหละ ไปนั่งโต๊ะตรงนั้นกัน เดี๋ยวไอ่จีวอนก็มา

      ผมเดินตามพี่ฮงซอก ไปนั่งที่โต๊ะที่พี่เขาว่า

      ผมนั่งอยู่กับเพื่อนๆและกลุ่มพี่ๆที่สนิทกันสมัยเรียน คุยเรื่องราวเก่าๆ รวมถึงนินทาเจ้าบ่าวของงาน โทษฐานที่ชิงสละโสดก่อนใคร

      ผมลุกจากโต๊ะ เพื่อจะขอเดินดูรอบๆสถานที่จัดงานเสียหน่อย

      แล้วผมก็ได้เจอกับเขา จริงๆในวันนี้เขาแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษ ผู้หญิงที่ยืนอยู่กับเขาก็เหมือนกัน อย่างที่ผมเคยบอกแล้วว่าคู่ของเขาในตอนนี้ก็ดูน่ารักดี. . .

       

      ผมเดินเลี่ยงไม่ไปสวนกับเขาโดยตรง  เดินมาจนถึงสระน้ำที่ค่อนข้างจะไกลจากสถานที่จัดงาน ผมเดินรอบๆเพื่อให้ตัวเองสงบขึ้น

      ผมรู้ว่าผมรู้สึกอะไร ผมรู้ว่าผมคิดถึงเขา...

       ยิ่งนานวันยิ่งมาก จนกลายเป็นความรู้สึกทรมาน

       ยิ่งถ้าวันไหนได้เจอแค่เสี้ยววินาที ผมก็จะเก็บจินตนาการว่า

       ถ้าตอนนี้ผมอยู่ด้วยกันกับเขา ถ้าเรายังอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน

      คงจะไม่เป็นผม ที่ฟุ้งซ่านแบบนี้

       

      ฮันบินอ่า...

      ผมหันหลังกลับ เมื่อได้ยินเสียงที่เคยคุ้น ดังอยู่ไม่ห่าง

      หืม ?

      ไม่เจอกันนาน เลยนะ. . .เขายังเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นท่าทางหรือว่ารอยยิ้มน้อยๆนั่น

      นั่นสิ ตั้งแต่เรียนจบไปก็ไม่ค่อยเจอกันเลย  นายเป็นยังไงบ้าง

      ฉันหรอ. . . ก็ดีนะ งานยุ่งๆนิดหน่อย แล้วนายล่ะ

      ฉัน. . . ก็ดีผมยิ้มตอบกลับไป

      อ่อ. . . อืม

      ‘. . .’

      ‘. . .’

      จีวอน. . .

      หืมมม ’       

      คิดถึงนะ

      อืม. . . เหมือนกัน

      จีวอน . . .

      ว่า ?

      ‘. . . เปล่า ไม่มีอะไร

      งั้น เจอกันข้างในนะ

      อืออ. . .

      จริงๆแล้ว ผมยังมีอีกคำที่อยากจะพูดกับเขา

      แต่ผมก็กลัวว่าคำตอบคราวนี้ มันจะไม่ เหมือนกัน

      จีวอนอ่า ฉันยังรักนะ แล้วนายล่ะ ?. . .

      .

      .

      .

       

      ฉันแค่ถามหน่อย

      ถามให้ตรงความรู้สึก

      ว่ารักของเรายังเหมือนเก่า

      ไม่อยากให้เรา

      เหลือเพียงความทรงจำ .

                                      

      END OR TBC ???
      ปล. มีต่อเป็น Jiwon part แล้วนะจ๊ะ  ><
      http://writer.dek-d.com/minichinbi/writer/view.php?id=1265910

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×